
กาญจนบุรี, 18 ธันวาคม 2563 – นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา ของวิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี ร่วมกันเปิดตัว “โซลาร์เจเนอเรชั่น วิทยาลัยแสงอาทิตย์ (SOLAR GENERATION)” สร้างการเรียนรู้และการจ้างงานจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นปีที่ 2 ของกองทุนแสงอาทิตย์ที่เปิดรับเงินบริจาคผ่านกองทุนฯ เพื่อติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปให้วิทยาลัยสายอาชีพ 7 แห่ง แห่งละ 10 กิโลวัตต์ทั่วประเทศ
รศ.ประสาท มีแต้ม กรรมการกองทุนแสงอาทิตย์ กล่าวว่า “ในช่วงปี 2562-2563 กองทุนแสงอาทิตย์ประสบความสำเร็จในการระดมเงินบริจาคจากประชาชนจนสามารถติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปกำลังการผลิตรวม 240.63 กิโลวัตต์ให้กับโรงพยาบาลภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการเฟสแรก 7 แห่ง คือโรงพยาบาลท่าสองยาง จ.ตาก โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โรงพยาบาลทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี โรงพยาบาลชุมแพ จังหวัดขอนแก่น โรงพยาบาลแก่งคอย จ.สระบุรี โรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร และโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ได้เป็นผลสำเร็จ และสามารถลดค่าไฟฟ้าของโรงพยาบาลทั้ง 7 แห่งรวมกัน 1.4 ล้านบาทต่อปี และในปีนี้เรายังคงเดินหน้าโครงการเฟสที่ 2 คือ “โซลาร์เจเนอเรชั่น วิทยาลัยแสงอาทิตย์” (Solar Generation) ในวันนี้เราสามารถติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปที่มีกำลังผลิตไฟฟ้า 10 กิโลวัตต์ให้กับวิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรีได้สำเร็จแล้ว ถือเป็นวิทยาลัยแสงอาทิตย์แห่งแรกจากเงินบริจาคของประชาชนผ่านกองทุนแสงอาทิตย์”
วิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี อยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานศึกษาที่ผลิตนักเรียน นักศึกษาสายอาชีพกว่า 2,000 คน ในด้านวิชาชีพตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ได้แก่ กลุ่มวิชาพาณิชยกรรม กลุ่มวิชาศิลปกรรม กลุ่มวิชาคหกรรม กลุ่มวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 10 กิโลวัตต์ในครั้งนี้คาดว่าจะช่วยลดค่าไฟฟ้าให้กับวิทยาลัยได้ไม่ต่ำว่า 60,000 บาทต่อปี หรือในระยะเวลามากกว่า 25 ปี ทางวิทยาลัยสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ราว 1,500,000 บาท
ดร.ณัฐวุฒิ ไถ้เงิน ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษากาญจนบุรี กล่าวว่า “ ทางวิทยาลัยขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมบริจาคเงิน ทำให้เราสามารถติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปได้ ซึ่งจะลดภาระค่าไฟฟ้าของทางวิทยาลัย และสามารถนำเงินส่วนดังกล่าวมาพัฒนาระบบการเรียนการสอนในวิทยาลัย และสิ่งสำคัญคือ การเริ่มต้นติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปในครั้งนี้ เป็นการติดตั้งที่สถาบันการศึกษาแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งสามารถเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษาที่กำลังเรียนและจะจบการศึกษาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและใกล้เคียงมีโอกาสในการสร้างอาชีพจากการลงทุนหรือทำงานติดตั้งโซลาร์เซลล์อีกด้วย”
นางสาวจริยา เสนพงศ์ หัวหน้างานรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน กรีนพีซ ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรเครือข่ายของกองทุนแสงอาทิตย์ กล่าวว่า“การฟื้นฟูเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 สามารถเกิดขึ้นจากการจ้างงานของพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับนักเรียนนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษา หากวิทยาลัยสายอาชีพของรัฐราว 429 แห่ง มีการติดตั้งโซลาร์เซลล์แห่งละ 10 กิโลวัตต์ จะผลิตไฟฟ้าได้ราว 4 เมกะวัตต์ และยังเป็นการสร้างโอกาสในการจ้างงานจากพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพ ยิ่งหากมีการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนจนครบถ้วน 100% ในปี 2593 การจ้างงานโดยตรงของพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยในปี 2593 ราว 76,620 ตําแหน่งงาน”
นอกจากนี้หากรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการลงทุนติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคาให้กับโรงเรียนของรัฐอีกราว 31,021 แห่งทั่วประเทศ โดยติดตั้งแห่งละ 5-100กิโลวัตต์ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 735.12 เมกะวัตต์โดยจะช่วยให้โรงเรียนประหยัดงบประมาณที่จะต้องไปจ่ายค่าไฟฟ้าทุกปีและโรงเรียนสามารถขายไฟฟ้ามีรายได้เพิ่มทั้งหมด 5,098 (6) ล้านบาทต่อปี หรือสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 4.48 ปี
Click to download:Greenpeace